โพรไบโอติกส์ที่มีชีวิต 8 สายพันธุ์ ใน Bestural Probiotect 8+ มีสายพันธุ์อะไรบ้าง แล้วแต่ละตัวช่วยเรื่องอะไรบ้าง

Last updated: 22 ก.พ. 2567  |  1731 จำนวนผู้เข้าชม  | 

โพรไบโอติกส์ที่มีชีวิต 8 สายพันธุ์ ใน Bestural Probiotect 8+ มีสายพันธุ์อะไรบ้าง แล้วแต่ละตัวช่วยเรื่องอะไรบ้าง

ก่อนอื่นเราก็คงต้องมาทบทวนความรู้กันว่า เจ้า "โพรไบโอติกส์" คืออะไร กันอีกสักครั้ง เพื่อเพิ่มความเข้าใจในเนื้อหาให้มากขึ้น
"โพรไบโอติกส์" (Probiotics)  คือ จุลินทรีย์ หรือแบคทีเรียที่จัดอยู่ในประเภท "ที่ดี" ซึ่งอาศัยอยู่ในระบบทางเดินอาหารของมนุษย์ ทำหน้าที่เกี่ยวข้องกับระบบต่างๆ ของร่างกาย ทั้งระบบย่อยอาหาร ระบบประสาท ระบบขับถ่าย ซึ่ง 70% ของระบบภูมิคุ้มกัน เกิดขึ้นในระบบทางเดินอาหาร รวมถึงเซลล์เม็ดเลือดขาวที่สำคัญอย่าง NK Cell ก็อาศัยอยู่ที่ลำไส้คอยทำหน้าที่ป้องกัน และทำลายเชื้อโรคต่างๆ เพราะสิ่งสำคัญของการมีสุขภาพที่ดีคือการรักษาสมดุลของจุลินทรีย์ในร่างกายให้มีความสมดุล และมีความหลากหลายสายพันธุ์ในร่างกายนั่นเอง
 

ในร่างกายมนุษย์มี จุลินทรีย์มากว่า 500 สายพันธุ์ สามารถพบได้ในช่องปาก กระเพาะอาหาร ลำไส้ และระบบทางเดินปัสสาวะ ซึ่ง Bestural Probiotect 8+ นั้นได้คัดสายพันธุ์โพรไบโอติกส์ที่มีชีวิตมา โดยเน้นเฉพาะสายพันธุ์ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด ถึง 8 สายพันธุ์ รวมจุลินทรีย์ 30,000 ล่านตัว โดยแต่ลสายพันธุ์มีคุณสมบัติ ดังต่อไปนี้

  1. Lactobacillus Acidophilus (แล็กโทบาซิลลัส แอซิโดฟิลัส) หรือ L.acidophilus  พบได้ตามธรรมชาติในโยเกิร์ต อาศัยอยู่ในลำไส้เล็ก ช่องคลอด ท่อปัสสาวะ และปากมดลูก เป็นแบคทีเรียชนิดกรดแล็กติก มีประสิทธิภาพในการยับยั้งเชื้อจุลินทรีย์ชนิดที่ทำให้เกิดโรค ช่วยเพิ่มความต้านทานต่อเชื้อโรค สามารถช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด รักษาอาการท้องเสียจากยาปฏิชีวนะ ช่วยเรื่องโรคภูมิแพ้ รวมถึงโรคผิวหนังอักเสบ 
  2. Lactobacillus Rhamnosus (แล็กโทบาซิลลัส รามโนซัส) หรือ L.rhamnosus เป็นแบคทีเรียที่มีความทนทานต่อกรดในกระเพาะอาหารพบได้ในลำไส้เล็ก และช่องคลอด มีประสิทธิภาพในการยับยั้งเชื้อแบคทีเรียที่เกี่ยวข้องกับการติดเชื้อในช่องคลอด และทางเดินปัสสาวะ มีประสิทธิภาพในการรักษาผู้ป่วยโรคอุจจาระร่วง ช่วยรักษาผู้ป่วยโรคลำไส้อักเสบ โรคภูมิแพ้ ภูมิแพ้อาหาร และอื่นๆ
  3. Lactobacillus Paracaseis (แล็กโทบาซิลลัส พาราคาเซอิ) หรือ L.paracasei ช่วยลดการอักเสบและช่วยให้การบีบตัวในระบบทางเดินอาหารของผู้ป่วยที่เป็นโรคลำไส้แปรปรวนให้ดีขึ้นได้
  4. Lactobacillus Gasseri (แล็กโทบาซิลลัส แก็สเซอรี) หรือ L.gasseri เป็นโพรไบโอติกส์ที่มีคุณสมบัติเด่นในเรื่องของการควบคุมน้ำหนัก ลดไขมันในช่องท้อง เส้นรอบเอว และเส้นรอบสะโพก ส่วนใหญ่พบในน้ำนมของคุณแม่
  5. Lactobacillus Reuteri (แล็กโทบาซิลลัส รียูเทอรี) หรือ L.reuteri ส่วนใหญ่พบในน้ำนมของคุณแม่ เป็นหนึ่งในโพรไบโอติกส์สำหรับเด็ก ช่วยให้เด็กมีร่างกายแข็งแรง และช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อได้
  6. Bifidobacterium Longum (บิฟิโดแบคทีเรียม ลองกัม) หรือ B.longum เป็นแบคทีเรียชนิดกรดแล็กติกที่สามารถหลั่งกรดแล็กติก และกรดแอซีติกออกสู่แวดล้อม จึงมีความต้านทานต่อสภาพที่เป็นกรด มีคุณสมบัติในการซ่อมแซมเยื่อบุผนังทางเดินอาหารและควบคุมลำไส้มีความสมดุล
  7. Bifidobacterium Lactis (บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส)  หรือ B.lactis เป็นโพรไบโอติกส์ที่ทนทานต่อกรดในกระเพาะอาหาร มีชีวิตอยู่ในลำไส้ได้นาน และยังมีประโยชน์ในผู้ป่วยที่มีโรคผิวหนังอักเสบ ช่วยเพิ่มเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิด T (T lymphocytes) และเซลล์เพชฌฆาต NK Cell (Natural Killer Cells) ทั้งหมด ส่งผลทำให้ระบบภูมิคุ้มกันดีขึ้น
  8. Bacillus Coagulans (บาซิลลัส โคแอกกูแลน) หรือ B.coagulans สามารถทนอุณหภูมิสูงที่ 100 องศาเซลเซียส ทนต่อกรดในกระเพาะอาหาร ช่วยเรื่องปัญหาเกี่ยวกับลำไส้เรื้อรัง ลำไส้อักเสบ หรือความผิดปกติที่เกิดจากทางเดินอาหาร อีกทั้งยังช่วยในเรื่องของการนำโปรตีนไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับร่างกายอีกด้วยประโยชน์สูงสุดกับร่างกายอีกด้วย



Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้